ในเดือนแห่งความรักนี้ ไปเที่ยวไหนกันบ้างครับ สำหรับผม มาเที่ยวที่ปากช่อง-วังน้ำเขียวครับ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และมีโอโซนมากเป็นอันดับ 7 ของโลก รีวิวที่พักครั้งนี้เรามากันที่ บ้านไร่สุจิรา ปากช่อง-วังน้ำเขียว
เราขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปทางสระบุรี แล้วเลี้ยวขวาไปทางนครราชสีมา เข้าถนนธนรัชต์มุ่งหน้าไปทางเขาใหญ่ และเลี้ยวซ้ายสุดท้ายก่อนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (เส้นทางไปวังน้ำเขียว) ไปตามถนนอีกประมาณ 38 กิโลเมตร ก็เห็นป้ายทางเข้าบ้านไร่สุจิรา เมื่อเข้ามาถึงในรีสอร์ทคุณเติ้ลก็มาต้อนรับเรา และพาชมบ้านพักในรีสอร์ท
ข้อมูลคร่าวๆของรีสอร์ทครับ บ้านไร่สุจิราเป็นรีสอร์ทที่อยู่ติดกับอำเภอวังน้ำเขียว เป็นรีสอร์ทสไตล์ธรรมชาติมีบ้านพักเป็นเรือนทรงไทยจำนวน 3 หลัง และที่กางเต๊นท์ บนพื้นที่ 50 ไร่ สำหรับกิจกรรมภายในบ้านไร่สุจิราก็มีปั่นจักรยานและขับรถ ATV ชมรอบรีสอร์ท และคาราโอเกะ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปที่นี่ก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปกัน ถ้าจะถ่าย Prewedding ก็ติดต่อรีสอร์ทได้ครับ


บ้านหลังที่1
คุณเติ้ลพาเรามาชมที่บ้านหลังเล็กก่อน ที่ด้านหน้าบ้านมีระเบียงสามารถนั่งรับลมหรือสังสรรค์กันได้ครับ ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย เป็นบ้านสไตล์ไม้ บ้านหลังนี้นอนได้ 4 คนครับ สิ่งอำนวยความสะดวกก็มี เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น ห้องน้ำในตัว และเครื่องทำน้ำอุ่น


ราคา 4,500 บาท/ คืน พักได้ 4 คน
บ้านหลังที่ 2
เป็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่ สร้างได้สวยน่าพักมากครับ เป็นไม้ทั้งหลัง และมีทางเชื่อมไปยังศาลา บ้านหลังนี้อยู่ในขั้นตอนการตกแต่งภายในอยู่ครับ


ภายในบ้านตกแต่งด้วยไม้สักทั้งหลัง

สิ่งอำนวยความสะดวกภายใน เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น ห้องน้ำในตัว และเครื่องทำน้ำอุ่น
ราคา 7,500 บาท/ คืน พักได้ 7 คน
ทางเดินไปยังศาลา

กางเต๊นท์
สำหรับท่านที่ชอบบรรยากาศธรรมชาติ ที่นี่คิดค่าใช้จ่าย 350 บาท/ท่าน มีเต๊นท์ให้ฟรีครับ
ใครที่มีสุนัข อยากจะพามาเที่ยวด้วย ที่นี่ก็ยินดีต้อนรับครับ
ชมบ้านพักกันเสร็จแล้ว ก็มาชมสวนกันต่อ บ้านไร่สุจิรามีสนามหญ้ากว้างมาก มีไม้ดอกสีสวยๆ แข่งกันออกดอก ที่นี่ปลูกอะไรก็งามครับ คงเป็นเพราะดินดี และอากาศดี ต้นมะละกอที่นี่ออกลูกขนาดเท่ากับขาเลยครับ ใหญ่มาก ส่วนต้นไม้ใหญ่ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เนื่องจากที่นี่เพิ่งทำเป็นรีสอร์ทได้ประมาณ 2 ปี


จากมุมนี้ เป็นเนินสูงขึ้นมามองเห็นวิวในบ้านไร่สุจิรา และสวนมะม่วงที่อยู่เนินอีกลูกหนึ่ง ช่วงเช้าๆ-เย็นๆ แนะนำว่าให้มาปั่นจักรยานหรือเดินเล่นชมวิว ดูดอกไม้ บรรยากาศดีมากๆ


หลังจากเดินถ่ายรูปจนเหนื่อย กลับมายังศาลา คุณแม่ของคุณเติ้ลได้เตรียมผลไม้ไว้ให้เรา และฝากกล้วยหิน ที่ปลูกในไร่สุจิราไว้ให้เรากลับไปกินด้วย กล้วยหินจะมีลักษณะของผลที่เป็นเหลี่ยม หวีค่อนข้างใหญ่ครับ กล้วยชนิดนี้่เป็นของดีเมืองยะลาเลยละครับ

นั่งพักกันจนหายเหนื่อย ก็ทานข้าวกันครับ ขอบคุณคุณเติ้ลที่จัดเตรียมกับข้าวไว้ให้เราครับ

ทานข้าวเสร็จก็ขอตัวลากลับ เราจะไป Palio กันต่อครับ —> อ่าน Palio Khaoyai อิตาลีที่เขาใหญ่
สุดท้าย หากต้องการหาที่พักที่ได้บรรยากาศธรรมชาติ สงบ และเป็นส่วนตัว ง่ายๆ และเป็นกันเอง แนะนำให้มาที่ บ้านไร่สุจิรา ปากช่อง-วังน้ำเขียว รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ ราคาที่พักก็ไม่แพง ลองสอบถามราคาและโปรโมชั่นกับทางบ้านไร่สุจิราก่อนได้ครับ
ขอขอบคุณ คุณเติ้ล คุณแม่-คุณลุงของคุณเติ้ลที่อำนวยความสะดวกในการรีวิวครั้งนี้ และคุณแอนที่ช่วยติดต่อ-นัดหมาย
ติดต่อบ้านไร่สุจิรา
การเดินทาง
ก่อนถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝั่งปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น อ.วังน้ำเขียว ผ่านสนามกอล์ฟ ทอสกานา วัลเลย์ มุ่งหน้าตรงไปประมาณ 30 กม. จะถึงตลาดหนองคุ้ม ข้ามสะพานคอนกรีต มีร้านกาแฟต้นตออยู่ด้านซ้าย ตรงไปจะเจอวัดหนองซ่อมอยู่ขวามือ และอีกประมาณครึ่ง กม. จะเจอป้ายไร่สุจิรา เลี้ยวซ้าย ตรงไปตามทาง เจอแยกเลี้ยวขวาอีกที ก็จะถึงบ้านไร่สุจิรา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ติดกับอำเภอวังน้ำเขียว รวมระยะทางทั้งหมดจากปากทางขึ้นเขาใหญ่-บ้านไร่สุจิรา ประมาณ 38 กิโลเมตร
แผนที่บ้านไร่สุจิรา
