ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างาม น้ำตกสวย มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย – เขมร ” คำขวัญประจำจังหวัดสระแก้วที่ฉันอ่านทีไรชวนให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆตามคำขวัญขึ้นมาทันที “ ป่างามน้ำตกสวย” นึกถึง อุทยานแห่งชาติปางสีดา “มากด้วยอารยธรรมโบราณ” ฉันยกให้ปราสาทหินเก่าแก่อย่าง สด๊กก๊อกธม “ ย่านการค้ำไทย-เขมร” ก็คงไม่พ้นตลาดการค้าสุดชายแดนชื่อดัง ตลาดโรงเกลือ แต่จังหวัดสระแก้วสำหรับฉันที่ได้เห็นไม่ได้มีเพียงแค่นี้ ยังมีมุมมองใหม่และมหัศจรรย์อีกหลายแห่ง มาเปิดประตูทำความรู้จักจังหวัดเล็กสุดชายแดนตะวันออกที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมเก่าแก่ไปพร้อมกันค่ะ

ระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพก็มาถึงตัวเมืองสระแก้วมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป้าหมายหลัก คือ ตั้งใจไปถ่ายภาพผีเสื้อซึ่งช่วงเวลาที่ฉันเดินทางคือปลายเดือนพ.ค. เริ่มมีผีเสื้อให้ชมเยอะแล้ว ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดาถือว่าเป็นจุดชมผีเสื้อที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีผีเสื้อพันธุ์แปลกๆ เยอะแต่ถ้าต้องการเห็นพันธุ์ที่หายากคงต้องเข้าไปข้างในอุทยานลึกเข้าไปอีกซักหน่อย ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างคณะฉันเลือกที่จะเดินไปมาถ่ายภาพแค่บริเวณที่ทางอุทยานได้จัดทำไว้ จุดแรกคือ ลานคอนกรีตตรงทางเข้าน้ำตกปางสีดามีให้ชมเยอะพอประมาณ ส่วนน้ำตกปางสีดาในเวลานี้น้ำแห้งขอด อีกจุดนึงก็คือตรงโป่งดินด้านในซึ่งเข้าไปดูแล้วไม่มีผีเสื้ออาจเป็นเพราะฝนตก

พยายามเดินหามุมถ่ายภาพ มาเจอหลังห้องน้ำ มีแต่เจ้าพันธุ์นี้บินไปมาให้ว่อน สีสวยเลยทีเดียว แต่ถ่ายภาพยากมาก เพราะมันบินตลอด จะมีเกาะอยู่ตามใบไม้บ้างแต่เหมือนมันจะรู้พอเดินเข้าไปใกล้ถ่ายภาพปุ๊บรีบบินหนีทันที

ฝนตกปรอยๆตลอดเวลา ฉันเดินกลับมาที่ลานคอนกรีตเพื่อหลบฝนแหงนมองขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ แอบตกใจเพราะมีกองทัพผีเสื้อเกาะอยู่ตามเกสรดอกไม้เยอะมาก ปกติเคยเห็นแต่ผีเสื้อเกาะตามต้นไม้หรือดอกไม้ในระดับเดียวหรือมองต่ำกว่าระยะสายตา ไม่เคยมองในแบบที่มองต้องแหงนขึ้นไปบนต้นไม้สูงจนเมื่อยคอ น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพกว้างมาให้ชม ถ่ายเจาะมาแค่สองตัวเท่านั้น

หลังจากการถ่ายผีเสื้อที่ปางสีดาดูแล้วคงไม่ประสบความสำเร็จแน่เพราะสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าใดนัก ประกอบกับเริ่มจะหิวข้าวจึงรีบมุ่งหน้าไป อ่างเก็บน้ำพระปรง อยู่ห่างจากปางสีดาประมาณ 30 กิโล อ่างเก็บน้ำพระปรง เป็นแหล่งดูนกต่างถิ่นอย่าง นกน้ำ นกอ้ายงั่ว ที่มีชื่อของสระแก้ว แต่ฉันไม่ได้เน้นดูนกอะไร ตั้งใจมาทานข้าวกลางวันกับเมนูปลาอร่อยๆ กินบรรยากาศริมน้ำมากกว่า ที่นี่มีร้านอาหารอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน ฉันได้โทรจองพร้อมสั่งอาหารล่วงหน้าไว้กับร้านแพริมเขื่อนเบอร์โทร 084 863 1735 ที่ตั้งต้องขับรถเข้าไปข้างในอีกซักนิด นอกจากนั่งรับประทานอาหารกันในซุ้มกระท่อมเล็กๆแล้ว ยังสามารถนั่งทานบนแพโดยลากไปกลางน้ำเพื่อชมวิวได้อีกด้วยจะคิดค่าบริการชั่วโมงละ 600 บาท ถ้าเน้นนั่งทานอาหารด้วยแนะนำว่าควรไม่เกิน 10 คนเพราะพื้นที่ในการนั่งทานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าล่องเรือชมวิวต่ออย่างเดียวแพรับได้ไม่เกิน 25 คน


เมนูอาหารเด็ดคงไม่พ้นปลาน้ำจืดสดๆ สั่งอาหารมาเยอะพอสมควร ทั้ง ปลาทับทิบเผา ผัดฉ่าปลาบึก ปลาช่อนลุยสวน ต้มยำปลาบึก ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม รสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยใช้ได้ทีเดียว

อิ่มท้องแล้วก็ไปต่อยัง ละลุ แต่ระหว่างทางผ่าน อ.วัฒนานคร มองไปเจอสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งเคยเห็นจากภาพถ่ายมาบ้างรู้สึกว่าที่นี่สวยแปลกตา จริงแล้วที่นี่ไม่ได้อยู่ในเพลนเส้นทางท่องเที่ยวสระแก้วของฉันแม้แต่น้อย แต่ด้วยความโชคดีผ่านมาเจอโดยบังเอิญ มีหรือที่จะไม่เลี้ยวเข้าไปเก็บภาพประทับใจกลับมาซักหน่อย

นานาธรรมสถาน คือ ชื่อเรียกของสถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ใน อ.วัฒนานคร เป็นสถานปฎิบัติธรรมแห่งใหม่ที่เกิดจากรวมตัวของพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา ในพระพุทธศาสนาได้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวสร้างขึ้นมา โดยใช้เวลาสร้างมากว่า 3 ปี ในเวลานี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์


จุดเด่นและสิ่งที่ดูแปลกตา คือ พระพุทธรูปสีขาวปางสมาธิองค์ใหญ่เรียงรายกันกว่า 320 องค์ โดยมีพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่อีก 3 องค์ ที่นี่เปิดให้บุคคลที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าไปเยี่ยมชมได้


สำหรับฉันที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ของสระแก้ว หากใครขับรถผ่านไปมาในอ. วัฒนานคร รับรองว่าต้องเหลียวมองด้วยความแปลกใจว่าคืออะไร


ขอต้อนรับทุกท่านสู่ดินแดนมหัศจรรย์ ของอำเภอตาพระยา หลังจากจอดรถไว้ที่ทำการด้านหน้าูศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็นั่งรถอีแต๋นของชาวบ้านเที่ยวละ 200 บาท รถสุดไฮโซคันนี้จะนำพาคณะของเราไปพบกับ ละลุ มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติสร้างสรรค์


ช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ จนถึงเย็น คือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว ละลุ เพราะนอกจากไม่ร้อนแล้ว เราจะได้แสงอ่อนๆที่มากระทบกับดินสีน้ำตาลในยามบ่ายอีกด้วย



พื้นที่ของละลุ ไม่ได้กว้างขวางมาก เดินไปมาเพียงไม่กี่นาทีก็ทั่วแล้ว


สีเขียวของต้นไม้ ช่วยแต่งเติมให้พื้นดินสีน้ำตาลแลดูไม่แห้งแล้งเกินไป จริงแล้วที่นี่มีพื้นที่สำหรับปลูกข้าวด้วย หากมาในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ก็อาจจะได้ภาพนาข้าวขึ้นแซมกับประติมากรรมดิน ดูสวยงามงามและได้องค์ประกอบไปอีกแบบ


ลวดลายการกัดเซาะของน้ำของประติมากรรมดิน ท้องฟ้าสีฟ้า และแสงอุ่นของแดดยามเย็น คือ ส่วนผสมที่ลงตัวที่ทำให้พื้นที่ในมุมเล็กของสระแก้วแห่งนี้ สอบผ่านและได้รับเลือกจากจาก ท.ท.ท. ให้เป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ได้ไม่ยาก

เดินขึ้นไปชมในมุมสูงบ้าง งดงามและแปลกตาเช่นกัน


ค่ำแล้วนอนที่ไหนดี สำหรับ 1 คืน ในสระแก้ว ฉันเลือกพักที่ le blocs อ.อรัญประเทศ เป็นที่พักเก๋ๆ ชิค ๆ น่านอนมากมาย


ความเก๋ ไก๋ ของที่นี่ ชื่อบอกตรงตัวว่าคือ Bloc ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ตู้หรือกล่อง ห้องพักของที่นี่เจ้าของได้ไอเดียโดยนำตู้คอนแทนเนอร์มาปรับปรุงเป็นห้องพัก ที่ปกคลุมด้วยความสดชื่นของต้นไม้ โดยแต่ละหลังก็นำมาทาสีใหม่ให้สีสันสะดุดตา


บรรยากาศภายในห้องพักตกแต่งแบบเรียบๆ ราคาที่พักคืนละ 1200 บาท พักได้ 2 คน (รวมอาหารเช้า) หากต้องการเสริมคิดราคาหัวละ 450 บาท


โซนนี้เป็บบริเวณล๊อบบี้ต้อนรับ มีมุมกระจุกกระจิกน่ารักดี



เดินเข้ามาอีกฝั่งหนึ่งเป็นที่นั่งจิบกาแฟ คุยกันแบบเก๋ๆ


หลับฝันดีไปกับเตียงนอนนุ่ม ตื่นมาแต่เช้า ย้อนกลับไปยังอ. โคกสูง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็มาถึงจุดหมายแรกในเช้าวันใหม่ ปราสาทสด๊กก๊อกธม ปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกซึ่งได้รับอิทธิพลจากเขมรโบราณ ฉันเคยมาที่นี่เมื่อนานมากแล้ว ในตอนนั้นตัวปราสาทยังไม่ได้รับการบูรณะดูทรุดโทรมและเต็มไปด้วยต้นไม้และต้นหญ้า ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้งสวยงามกว่าแต่ก่อนเยอะมาก ถึงแม้ตอนนี้ยังบูรณะไม่เรียบร้อยแต่ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ รอบตัวปราสาทมีสระน้ำล้อมรอบซ้ายขวา ถือเป็นมุมถ่ายภาพยอดนิยมอีกมุมหนึ่ง


ทางเข้าไปยังตัวปราสาทด้านหน้า จะสังเกตว่ามีเสาหินเรียงรายไปจนถึงประตูทางเข้า เสาหินนี้เรียกว่า เสานางแล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่เราจะพบเห็นได้เฉพาะที่ปราสาทสด๊กก๊อกธม เพียงแห่งเดียวเท่านั้น จะไม่พบเห็นที่ปราสาทหินอื่นๆ ในประเทศไทย

หานางแบบมานั่งโพสต์ท่าเก๋ๆ ตรงหน้าซุ้มหน้าต่างซักหน่อย


ลวดลายแกะสลักอันอ่อนช้อยของหน้าบันและซุ้มประตู


เดินเข้ามาข้างในสุด จะเป็นองค์ปราสาทประธาน ซึ่งข้างในมีหินศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นตัวแทนขอพระศิวะและพระแม่อุมา


บรรณาลัย ซึ่งจะอยู่ขนาบข้างซ้ายขวาของปราสาทองค์ประธาน งดงามไม่แพ้กัน สันนิษฐานว่าในอดีตเคยใช้เก็บพวกคัมภีร์โบราณ


ตัวปราสาทด้านในสุดที่สร้างล้อมรอบไว้ มีทางเดิมเชื่อมต่อถึงกัน มีซุ้มหน้าต่างรอบทิศ เดินชมถ่ายภาพปราสาทสด๊กก๊อกธมซะเพลินถึงแม้จะเป็นจะไม่ได้มีพื้นที่ที่กว้างขวางมากแต่มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะพอสมควร ฉันค่อนข้างประทับใจอย่างมาก ด้วยโดยส่วนตัวชอบเที่ยวสถานที่แนวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต วัฒนธรรมอะไรแบบนี้อยู่แล้ว


เวลาเที่ยงกว่ากลับมายังเส้นทางเดิมเพื่อมาทานอาหารเวียดนามร้านดังที่ อ.อรัญประเทศ ร้านยายต๋าม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตลดาโรงเกลือ อาหารเวียดนาม ถือว่าเป็นของดีและอาหารขึ้นชื่อของสระแก้ว มาถึงแล้วต้องลองทานซักหน่อย

หน้าตาอาหารบางส่วน จริงแล้วสั่งมาทานทุกอย่างที่ขึ้นชื่อซึ่งมีประมาณ 7 อย่าง ทั้งแหนมเหนือง ขนมปากหม้อ ปอเปี๋ยะ ปั้นหอย ขนมเบื้องญวน ส่วนรสชาติถ้าให้พูดตามตรง คือ รสชาติธรรมดามาก สามารถหารับประทานได้ทั่วไปในที่อื่น มีคนบอกว่าร้านอาหารเวียดนามอร่อยๆ ต้องร้านในตัวเมืองสระแก้ว ซึ่งฉันก็ไม่ได้มีโอกาสแวะผ่าน เลยต้องมาทานร้านนี้เนื่องจากเน้นสะดวกและเห็นว่าอยู่ใกล้ตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นสถานที่ต่อไปที่เราจะแวะไป

อิ่มท้องก็ได้เวลาเบรินอาหารทั้งหมดที่ได้ทาน ไปเดินช้อปปิ้ง ที่ตลาดโรงเกลือ ซักหน่อย มาช้อปตลาดโรงเกลือต้องมีเป้าหมายว่าเราจะมาดู หรือมาซื้ออะไร จะมาเดินชิวไปเรื่อยๆแบบเดินสวนจตุจักรคงไม่ได้ เพราะตลาดกว้างและอากาศค่อนข้างร้อน ถ้าให้เดินทั้งหมดคงไม่ไหว ถ้าไม่อยากเดินก็อาจเช่ารถกอล์ฟชั่วโมงละ 150-200 บาท หรือจักรยานปั่นให้ทั่วก่อนก็ได้ สินค้าส่วนใหญ่ในตลาดโรงเกลือที่เห็นจะเป็นกระเป๋า รองเท้า หมวก ประมาณนี้ ฉันใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงต้องยอมแพ้ในอากาศที่แสนจะร้อนกลับมานั่งรอเพื่อนร่วมทริปน่าจะดีที่สุด


ก่อนกลับกรุงเทพแวะไปสถานที่สุดท้ายของทริป เขาฉกรรจ์ สถานที่ที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งของสระแก้วที่ไม่ควรพลาด ภาพภูเขาหินรูปร่างแปลกตาเรียงรายกัน ยังคงเป็นภาพที่ติดตามฉันเสมอมา เมื่อได้มีโอกาสเดินทางมาด้วยตัวเองถึงแม้จะหามุมถ่ายภาพภูเขาสวยๆ ไม่เจอก็ไม่เป็นไรเก็บภาพความงามด้วยสายตามาก็เพียงพอแล้ว ข้างในเขาฉกรรจ์มีถ้ำให้ชมหลายถ้ำ แต่ถ้ำที่เป็นที่นิยมคือ ถ้ำทะลุ มีบรรไดเป็นทางยาวให้ขึ้นไปชมตัวถ้ำ


ลักษณะเป็นช่องเขาสองด้านที่ทะลุหากัน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปรวมถึงรอยพระพุทธบาท ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล


มาถึงข้างบนมีบันไดปูนเชื่อมต่อกับบันไดไม้ให้เดินขึ้นไปชมถ้ำได้สบายเมื่อขึ้นไปถึงส่วนบนของถ้ำสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบ และที่สำคัญข้างบนนี้ลมพัดเย็นสบายมากจนไม่อยากเดินลงมาเลยทีเดียว


จบทริปดินแดนบูรพา 2 วัน 1 คืน แบบประทับใจ สระแก้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมายที่ฉันไม่ได้แวะไปสัมผัส ถึงแม้จะเป็นเพียงจังหวัดเล็กที่อาจไม่ใช่จุดหมายของการท่องเที่ยวในอันดับต้นของใคร แต่ไม่แน่ถ้าลองเปลี่ยนจุดหมายหลักของคุณแล้วแวะมาที่สระแก้วดูบ้างคุณอาจจะรู้สึกที่นี่มีอะไรแปลกใหม่อีกมากมาย ที่คุณอาจไม่เคยได้เห็นในจุดหมายท่องเที่ยวหลักของคุณก็เป็นได้ค่ะ

กดถูกใจเพจ facebookเพื่อแนะนำที่เที่ยวสวยๆและร้านอาหารอร่อยเด็ดๆ
เช่ารถบัสนำเที่ยว เช่ารถตู้นำเที่ยว รถรับจ้างย้ายบ้าน รับจัดโต๊ะจีน รับสร้างบ้านสวย