1. อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มี พื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีและยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรีสภาพป่าในบริเวณนี้ มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบมีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา ที่น่เด่นในเรื่องของการขึ้นไปสักการะ รอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง โดยประชาชนจะนิยมไปนมัสกาเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกกระทิง, น้ำตกคลองช้างเซ, ยอดเขาพระบาท
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์ไปตามทางถนนสายบางนา-ตราด เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยา ตรงหลักกิโลเมตร 324 แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าถนนบำราศนราดูร เป็นระยะทาง 21 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางเข้าอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี ให้เลี้ยวขวาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
วันเวลาเปิด-ปิด : ระหว่าง31 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 8.00 - 16.30 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
2. วัดเขาสุกิม จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของเมืองจันท์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2509 ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ตั้งอยู่บนเขาแพร่งขาหยั่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป สามารถเลือกได้ว่าจะฝึกความแข็งแรงของร่างกาย โดยการเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้า ๆ หรือจะเลือกนั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นไปแทนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น บริเวณวัดมีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 3,280 ไร่ อยู่สูงขึ้นไปบนเนินเขา ทางวัดได้สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้นมัสการ และมีบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าวัดใกล้ ๆ กับบริเวณทางขึ้นรถรางไฟฟ้า ด้านบนมีสถานที่ทำบุญหลายจุด และอาคารสี่ชั้นชื่อ ตึก 60 ปีเฉลิมพระเกียรติ ภายในจัดแสดงศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุ และวัตถุโบราณล้ำค่าต่าง ๆ มากมายรวมถึงมุมทำบุญถวายสังฆทาน บริเวณชั้น 4 หรือชั้นดาดฟ้าของตึก จะมีวิหารบูรพาจารย์อุทิศ ซึ่งเป็นห้องพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มรณภาพไป แล้วหลายองค์ ได้แก่ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จังหวัดหนองคาย, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ วัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร, หลวงปู่ดุล อตุโล วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์, หลวงปู่ฟั่น อาจาโร วัดป่าอุดม จังหวัดสกลนคร, พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ฯลฯ ซึ่งแต่ละองค์ดูงดงามและเหมือนจริงมาก นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงโต๊ะเก้าอี้ฝังมุก และแจกันขนาดใหญ่แบบจีน เวียดนาม จำนวนหลายใบอีกด้วย
การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว จากสี่แยกเนินสูงซึ่งเป็นตลาดขายผลไม้ขนาดใหญ่ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 317 ให้เลี้ยวขวา ถ้ามาจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3322 วัดเขาสุกิมจะอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 16 ทางเข้าจะอยู่ซ้ายมือชัดเจน ขับไปประมาณ 500 เมตร มีรถสองแถวสายจันทบุรี-นายายอาม ท่ารถอยู่บริเวณตลาดน้ำพุ ตรงข้ามโรงภาพยนตร์สยาม ค่าโดยสาร 10 บาท ลงที่ตลาดเนินสูง แล้วใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่งระยะทาง 16 กิโลเมตร
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:30-18:00 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
3. โอเอซีส ซี เวิลด์ จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : ตั้งอยู่ ณ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ซึ่งห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 ก.ม. เป็นสถานที่เพาะพันธุ์โลมา และการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย นั่นก็คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี และนอกจากการแสดงโลมาแล้วนั้นโอเอซีส ซีเวิลด์ก็ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้ ชนิดที่เรียกว่า “เนื้อแนบเนื้อ” กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความประทับใจ เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เป็น ครั้งหนึ่งในชีวิต
การเดินทาง :
เส้นทางที่ 1เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7) * เส้นทางนี้มีระยะทางที่ใกล้ที่สุด เป็นเส้นทางสายใหม่ที่สุด เริ่มต้นที ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ผ่านมอเตอร์เวย์ ด่านลาดกระบังและด่านพานทองชิดซ้ายเตรียมเข้าทางแยกเข้าบ้านบึง – แกลง วิ่งเข้าแกลงระยะทาง90 กม.จากนั้น ใช้ทางหลวงหมายเลข 344 ระยะทาง50 กม.และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 อีก63 กม.รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ – จันทบุรี210 กม.
เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 3 (บ้านบึง – แกลง) เป็นเส้นทางสายหลักอีกสายหนึ่ง ซึ่งช่วยลดระยะทางได้ถึง70 กม.เริ่มต้นที่เขตบางนา ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี เลี้ยวซ้ายเข้า กม.ที่ 98 ถ.สุขุมวิท อ.เมือง จ.ชลบุรี ผ่าน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี อ.วังจันทร์ และ อ.แกลง จ.ระยอง ระยะทาง110 กม.จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ระยะทาง63 กม.จะถึงจันทบุรี รวมระยะทางจากกรุงเทฯ – จันทบุรี226 กม.
เส้นทางที่ 3 เส้นทางเชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคตะวันออก เริ่มต้นที่ กม.ที่ 200 ทางหลวงหมายเลข 38 อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เลี้ยวขวาตรง กม.ที่ 230 จ.สระแก้ว เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 317 ระยะทาง189 กม.ผ่าน อ.วังน้ำเย็น , อ.สอยดาว , อ.โป่งน้ำร้อน , อ.มะขาม จนถึง จ.จันทบุรี รวมระยะทางจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี – จันทบุรี219 กม.
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
4. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี ยอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และ สวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะ "ปลาพลวงหิน" เหล่านี้
การเดินทาง :
รถยนต์ : การเดินทางจากกรุงเทพฯ - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลัก 2 เส้นทาง คือ...
1. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายบางนา - ตราด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร
2. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 317 แยกเข้าสู่ถนนสายบ้านบึง - แกลง เข้าจันทรบุรี (ตามถนนสายบางนา - ตราด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง :จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีเอกมัย ไปจังหวัดจันทบุรี พอถึงจันทบุรีให้ขึ้นรถสองแถวที่บริเวณตลาด เพื่อไปยังน้ำตกพลิ้ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
5. หาดแหลมเสด็จ จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : เป็นหาดทรายละเอียดสีขาวหม่น มีความยาว 2 – 3 กิโลเมตร ร่มรื่นไปด้วยเงาของสนทะเลและพันธุ์ไม้ชายหาดนานาชนิด ในช่วงเดือน พฤศจิกายน – เมษายน คลื่นลมสงบ เมื่อเข้าสู่ฤดูมรสุม น้ำทะเลค่อนข้างขุ่นและคลื่นแรง ไม่เหมาะจะเล่นน้ำ มีร้านอาหารทะเลตั้งเรียงรายตลอดชายหาด มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และสถานที่สำหรับตั้งแคมป์พักแรมไว้คอยบริการ (ติดต่อสำนักงานป่าไม้ ฝั่งตรงข้ามถนนเลียบชายหาด)
การเดินทาง :กรุงเทพฯใช้ ทางหลวงหมายเลข 344 มุ่งหน้าไปทาง อ.แกลง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) หาดอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ 25 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางท่าใหม่บ้านหมูดุด
วันเวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดวัน
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
6. หาดเจ้าหลาว จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างเทศกาลงานประเพณีขึ้นเขาคิชฌกูฎ ประมาณ มกราคม - มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเมื่อเดินทางมาทำบุญก็จะหาสถานที่ท่องที่ยวแวะระหว่างทาง และที่นี่ก็จะได้รับการเลือกเป็นอันดับต้นๆ โดยหาดเจ้าหลาวจะอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ 17 กิโลเมตร ถัดมาจากหาดแหลมเสด็จ มีบรรยากาศเงียบสงบ เป็นหาดทรายสีนวล ยาวเหยียดสุดสายตา ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว เป็นหาดทรายขาวสะอาดปนสีเทายาวเหยียดสุดสายตา มีบรรยากาศสงบเงียบ เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีร้านอาหารและที่พักเปิดให้บริการ
การเดินทาง : กรุงเทพฯใช้ ทางหลวงหมายเลข 344 มุ่งหน้าไปทาง อ.แกลง หาดอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 60 กิโลเมตร ทางถนนสุขุมวิทตรงหลักกิโลเมตรที่ 301 หรือ เดินทางจากอำเภอท่าใหม่ ระยะทาง17 กิโลเมตร
วันเวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดวัน
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
7. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน เป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าตากสิน และบ่อบอกถึงความศรัทธาของชาวจันทบุรีที่มีต่อพระเจ้าตากได้เป็นอย่างดี เดิมเป็นเพียงศาลไม้อยู่ด้านข้างศาลหลักเมือง กระทั่งปี พ.ศ. 2463 ได้มีการย้ายมาสร้างใหม่คนจะฝั่งถนนกับศาลหลักเมือง เป็นศาลคอนกรีตสี่เหลี่ยมจัตุรมุข ภายในประดิษฐานเทวรูปซึ่งเป็นเทพเจ้าประจำองค์พระเจ้าตาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ประชาชนชาวจันทบุรีได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างศาลแห่งใหม่ข้างศาลเดิม เป็นศาลหินอ่อนทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลายอดแหลม สูง 16.9 ม. ประดับลวดลายทอง ภายในมีพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสิน หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ ประทับนั่งทรงเมือง เป็นที่สักการะของชาวจันท์มาจนถึงทุกวันนี้
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯให้ใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดจันทบุรี เข้าตัวเมือง ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนี้ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลหลักเมืองจันทบุรี อยู่บนถนนท่าหลวง บริเวณหน้าค่ายตากสิน
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 20.00 น .
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
8. น้ำตกคลองนารายณ์ จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงราว 25 ม.สายน้ำไหลจากผาสูงชันลดหลั่นลงมาผ่านโขดหิน น้ำใสสะอาดและมีน้ำมากตลอดปี บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธ์ไม้หลากชนิด เช่น พนอง กฤษณา สัตบรรณ เป็นต้น น้ำตกคลองนารายณ์ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งนำน้ำมาใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือพระราชพิธีในการสถาปนาซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ ไม่มีประวัติระบุว่ามีการนำน้ำจากน้ำตกแห่งนี้มาเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยใด ตำนานเล่าว่า น้ำตกคลองนารายณ์ไหลออกมาจากโพรงถ้ำใหญ่บนเขาสระบาป ภายในถ้ำมีเทวรูปพระนารายณ์สถิตอยู่ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการพิสูจน์ว่ามีเทวรูปดังกล่าวจริงหรือไม่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยลงสรงน้ำในธารน้ำตกแห่งนีh
การเดินทาง : ตั้ง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อยู่ที่ตำบลคลองนารายณ์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร น้ำตกอยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี-ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.3 (คลองนารายณ์) จากนั้นเดินเท้าไปอีก 2.5 กิโลเมตร ผ่านป่าดิบชื้นก็จะถึงน้ำตกคลองนารายณ์
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น.
9. อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล เป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก ได้ชื่อว่าเป็น โบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในประเทศ
การเดินทาง :เมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทางต่อไปอีกราว 1 กิโลเมตร หรือจากตัวเมือง เดินทางข้ามสะพานวัดจันท์ไปตามถนนจันทนิมิตจะพบทางแยกขวาไปโบสถ์คาทอลิก
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
10. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน จันทบุรี



ข้อมูลทั่วไป : ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่บริเวณ อ่าวคุ้งกระเบน มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดประมาณ 4,000 ไร่ เป็นไปตามพระราชประสงค์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทำการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย นำมาพัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงยังเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมพร้อมๆ ไปกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้ พื้นที่โดยรอบของป่าชายเลน นักท่องเที่ยวสามารถใช้ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ใน การเที่ยวชมตามจุดต่างๆ พร้อมกับข้อมูลความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนที่ติดอยู่ตรงศาลาเล็กๆ ให้ได้ทราบอยู่เป็นระยะ
การเดินทาง :จากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดจันทบุรี กระทั่งถึงช่วงกิโลเมตรที่ 301-302 ให้เลี้ยวขวาที่แยกหนองสีงา จากนั้นวิ่งตรงเข้ามาตามเส้นทางหลักเรื่อยๆ อีกประมาณ 27 กิโลเมตร ซึ่งจะผ่านทั้งวัดวังหิน วัดรำพัน วัดท่าศาลา และเมื่อถึงทางแยกที่ตัดกับทางจะไปคุ้งวิมาน ก็ให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าตรงไปซักระยะ จะมีป้ายบอกจุดหมายคือศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอยู่ตลอดทาง
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 -17.00 น.
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว~
กดถูกใจเพจ facebookเพื่อแนะนำที่เที่ยวสวยๆและร้านอาหารอร่อยเด็ดๆ
เช่ารถบัสนำเที่ยว เช่ารถตู้นำเที่ยว รถรับจ้างย้ายบ้าน รับจัดโต๊ะจีน รับสร้างบ้านสวย